1. การสวมใส่หน้ากากอนามัยทั่วไป
กรณีที่มีการระบาดโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ก็มีทางเเพทย์ได้มาอธิบายคำถามที่หลายคนสงสัยกัน ว่าแท้ที่จริงแล้วเราควรใส่หน้ากากด้านไหน? ซึ่งการสวมใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ถูกต้อง หรือใส่แมสชนิดทั่วไป เพื่อป้องกันทั้งฝุ่น PM 2.5 และเชื้อไวรัสโคโรน่า มากระจายสู่ตัวเรา ต้องทำตามขั้นตอนดังนี้
- เริ่มจากล้างมือให้สะอาดก่อน เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกปนเปื้อนกับหน้ากาก หากมีเจลกำจัดเชื้อแบคทีเรียด้วยก็ยิ่งดี
- ต่อมาให้สวมหน้ากากอนามัย โดยจับห่วงทั้ง 2 ข้าง หันด้านที่มีสีเข้มออกด้านนอก แล้วเอาสีขาวเข้าหาหน้าตัวเอง
- จากนั้นนำสายมาคล้องหู และปรับให้พอดี แต่ไม่ควรให้หน้ากากหลวมเกินไป เพราะอาจจะทำให้เชื้อโรคเข้ามาได้
- กดตรงส่วนของโลหะให้ชิดกับสันจมูก และพับจีบด้านนอกลง
- ควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยทุกๆ วัน รวมถึงหลีกเลี่ยงผู้ที่มีอาการไม่สบาย ไอ หรือจามด้วย
** หากหน้ากากอนามัยขาด หรือชำรุดก็ควรเปลี่ยนใหม่ทันที อย่าฝืนใส่เด็ดขาด!
2. การสวมใส่หน้ากากอนามัย N95
เมื่อมีผู้คนล้มป่วยจากเชื้อไวรัสโคโรน่า หลายคนก็เริ่มรู้จักป้องกันตัวเองมากขึ้น ด้วยการสวมใส่หน้ากาก n95 เพราะมันสามารถป้องกันฝุ่นละออง เชื้อไวรัส เชื้อรา และเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้เราก็ต้องศึกษาวิธีใส่หน้ากากที่ถูกต้องเช่นกัน
- อันดับแรกจะต้องล้างมือให้สะอาดก่อน เพื่อกำจัดเชื้อโรค
- ใส่หน้ากาก n95 ที่ได้รับมาตรฐาน และเหมาะสมกับใบหน้า มาครอบทั้งจมูกและปากให้มิดชิด
- จับสายคล้องเส้นล่างรัดบริเวณใต้ใบหู และอีกหนึ่งเส้นด้านบนให้อยู่เหนือใบหู และกดส่วนที่เป็นโลหะให้กระชับเเน่นกับสันจมูก
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหน้ากากอนามัยแนบสนิทหรือไม่ ด้วยการเป่าลมก่อน หากหน้ากากพอดีเวลาหายใจเข้าหน้ากากจะยุบตัว ส่วนหายใจออกหน้ากากจะพองตัว
- กรณีที่ใช้งานแล้วแต่ยังไม่ทิ้ง แนะนำให้ทำเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ไว้ หรือเก็บไว้ในถุงผ้าอย่างปลอดภัย (แต่ถ้าใช้แล้วทิ้งควรใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุงให้แน่น แล้วทิ้งลงในถังขยะติดเชื้อ)
- อย่าลืมล้างมือทุกครั้งหลังใส่หน้ากาก n95 รวมถึงหลีกเลี่ยงผู้ป่วย ผู้ที่มีอาการไม่สบาย ไอ หรือจาม
ทั้งนี้การใส่หน้ากากจะมีรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกัน แนะนำให้ตรวจสอบความมิดชิดของหน้ากากทุกครั้ง หากพบว่ามีสารคัดหลั่งจำพวกน้ำมูก น้ำลายเจือปน รวมถึงหน้ากากขาดชำรุด ก็ต้องรีบเปลี่ยนหน้ากากใหม่ทันที
นอกจากนี้ถ้าสังเกตว่าเรามีอาการไอ และจามอยู่บ่อยๆ ต้องรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบอาการเบื้องต้นก่อน แล้วที่สำคัญอย่าลืมเตรียมทำประกันสุขภาพไว้ เพื่อให้ช่วยดูแลค่ารักษาพยาบาลด้วย ทั้งค่ายา ค่าอาหาร ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ค่าบริการรถพยาบาล หรือค่าห้องสำหรับผู้ป่วย ประกันสุขภาพจะช่วยคุ้มครองให้กับคุณทันที เจ็บป่วยแค่ไหนก็อุ่นใจมากขึ้น